ReadyPlanet.com
dot
dot
dot
dot




เตะตะกร้อ หายจาก "อัมพฤกษ์" (ตอนที่ 2) article

ออกกำลังกาย-ได้กำลังใจ

                

                            เวลาผ่านไปค่อนปี อาการของวัฒนาค่อยดีขึ้นตามลำดับ  เขาโหยหาคิดถึงการเล่นตะกร้อ ทั้งที่หวั่นใจว่าคง

                                                                    เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

                                                       “เอาเลย... พรุ่งนี้ใส่รองเท้ามาเลย”  เพื่อนๆ กลับสนับสนุนเต็มที่ วัฒนารู้สึกดีขึ้น อยากรู้ว่ารุ่งขึ้นจะทำจริงได้แค  “ยิ่งกว่าหัดเตะใหม่เสียอีก... เพราะเรี่ยวแรงมีน้อยเต็มที  ขยับได้ทีละนิด  ก้าวออกจากตัวได้แค่ก้าวเดียว  ถอยหลังได้แค่ครึ่งก้าว ไม่เช่นนั้นก็จะล้ม  เพื่อนส่งลูกมาก็เตะไปไหนก็ไม่รู้  เตะเสียตลอด ไม่มีดีเลย”ช่างน่าเวทนา  น่าขายหน้า  น่าย่อท้อ ใช่ไหม?  เปล่าเลย...  วัฒนาไม่คิดเช่นนี้  และเพื่อนร่วมวงก็ไม่คิดเช่นนี้เช่นกัน

 แท้แล้ววัฒนารู้สึกดีกับการได้เริ่มต้นใหม่  ด้วยความเชื่อมั่นยิ่งขึ้นๆ ว่าการออกกำลังกายจะทำให้สภาพร่างกายเขาดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

 เพื่อนร่วมวงไม่เคยพูดว่าวัฒนาข้อหาที่ทำให้ตะกร้อไม่สนุก ในทางตรงกันข้าม แต่ละคนพากันชื่นชมให้กำลังใจในทำนอง  “ดีขึ้นกว่า เดิมตั้งเยอะ”  “ดีขึ้นกว่าเก่าตั้งแยะ”

 

 ทุกคนปลุกปลอบใจให้เขาตระหนักว่าเรื่องของกำลังใจนั้นสำคัญยิ่ง  หากจิตใจไม่เข้มแข็งเห็นทีต้องยอมแพ้ไม่พยายามต่อไปเป็นแน่แท้  วัฒนายอมรับว่าน้ำใจเพื่อนฝูงในวงตะกร้อทำให้เขากลับมามีชีวิตชีวาขึ้นมาใช่น้อย

 

เขาจึงค่อยๆ ลองเล่นตะกร้อมากขึ้นๆ จาก 5 นาที 10 นาทีก็เพิ่มระยะเวลาขึ้นตามลำดับ  สุขภาพของวัฒนาค่อยรื้อฟื้นคืนสภาพอย่างน่าพอใจ  แม้หมอผู้ดูแลยังแปลกใจเมื่อรู้ว่าเขากลับมาเล่นตะกร้อได้ ถึงกับถามว่า  “เล่นไหวหรือ  วัฒนาเล่าว่าหมอเพียงแนะนำอย่าให้หักโหมหนักเกินไปเท่านั้น

ทำไมเล่นตะกร้อวง?

 

แม้จะไม่ใช่นักกีฬาตัวยง  แต่วัฒนาก็เคยเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพมาหลายชนิด  นอกจากตะกร้อวงแล้ว เขายังเคยวิ่งจ็อกกิ้ง เล่นแบดมินตัน ฟุตบอล และปิงปอง ซึ่งประการหลังวัฒนาในวัยหนุ่มมีฝีไม้ลายมือไม่เบา

 

เหตุผลที่เขาเลือกเล่นตะกร้อวงเป็นกีฬาหลังประสบวิกฤติสุขภาพนั้น  วัฒนาเฉลยว่าเพราะตะกร้อวงไม่ต้องห้ำหั่นเอาชัยชนะจากกัน ไม่มีการกระทบกระทั่ง ไม่ว่าทางกายหรือทางใจ  มีแต่การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน  นับแต่การพยายามช่วยกันไม่ให้ลูกตก ส่งเสริมกันและกันและแบ่งปันกันเล่น  บรรยากาศในวงมีแต่ความสนุกสนานเบิกบานใจ 

 

ทั้งนี้ทั้งนั้น ในวงตะกร้อนั่นเองที่เพื่อนร่วมวงพากันอดทนประคับประคองให้วัฒนาได้กลับมาเริ่มเล่นตะกร้อใหม่ได้

 

“ตะกร้อเป็นกีฬาที่สำรวม” วัฒนาพูดราวจะสื่อความหมายไปถึงบุคลิกภาพของตนเอง ที่คนรู้จักจะรู้ดีว่าแม้จะได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของร้านเพชร แต่วัฒนากลับใช้ชีวิตเรียบง่าย ประหยัด ไม่หรูหราฟุ้งเฟ้อ เขายกตัวอย่างกีฬาชื่อฝรั่ง  2-3 ชนิดที่ต้องใช้อุปกรณ์และราคาค่าใช้สนามสูงว่า “... กีฬาพวกนี้สำหรับเศรษฐี ผู้ดีมีสตังค์ หรือไม่ก็คนชอบจุ๊ยคุยโอ้อวด”

 

เขาเห็นว่าน่าเสียดายที่ตะกร้อวงเสื่อมความนิยมลง  ขาดการส่งเสริม  ทั้งที่เป็นกีฬาไทยแท้  เล่นง่าย  ได้เพื่อน และอุปกรณ์ราคาถูก

 

“มีรองเท้าสักคู่  ตะกร้อสักลูก แล้วหาใครอีกคนสองคนก็สนุกได้แล้ว”

เป็น-หาย ไม่คาดคิด

 

คิดบ้างไหมว่าวันหนึ่งอาจเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนอื่นได้ -- ที่มาเล่นกีฬาจนกระทั่งหายจากอัมพฤกษ์แบบนี้? 

 

“ไม่เคยคิดเลยว่าสักวันหนึ่งจะต้องมาเป็นอัมพฤกษ์” วัฒนาตอบราวผู้ถามตั้งประเด็นผิด  “แต่ก็ภูมิใจเหมือนกันเมื่อมานึกถึงว่าแต่ก่อนเราเคยเป็นหนัก แล้วตอนนี้เราก็ทำมาได้ถึงขนาดนี้   คนเห็นเราเล่นตะกร้อจะมองไม่ออกเลยว่าเราเป็นอย่างนี้มาก่อน...  ผมคงจะโชคดีกว่าคนอื่น”

 

วัฒนาหมายความว่าเขาโชคดีกว่าผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอีกจำนวนมาก ซึ่งมีความรุนแรงมากกว่า  การฟื้นคืนสภาพจึงทำได้ยากกว่าหรือบางรายแทบเป็นไปไม่ได้  แต่เขาไม่ปฏิเสธว่าการกลับมาเล่นตะกร้อวงเป็นจุดผกผันสำคัญที่ทำให้เขามีชีวิตและชีวาคืนมาใหม่

 

“ไม่คิดเหมือนกันว่าจะกลับมาได้ดีถึงขนาดนี้” เขายืนยัน

คุณภาพชีวิตปัจจุบัน

 

วัฒนาพูดกับคนใกล้ชิดเสมอว่ากำไรชีวิตอย่างเดียวที่เขามี คือ ลูกแก้ว-เมียขวัญ 

 

“ผมแฮปปี้มาก”  เขาพูดถึงครอบครัวอย่างภาคภูมิใจ  ทุกวันนี้เราส่วนใหญ่รู้ดีว่าการจะมีครอบครัวที่มีสุขสมบูรณ์พร้อมใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่ายๆ 

 

“ผมเองไม่ใช่คนมั่งมี  เก่งกาจ หรือดีเด่อะไร  แต่พูดถึงครอบครัวแล้ว เชื่อว่าผมมีแบบที่ใครๆ ก็พากันปรารถนา... คงทำบุญมามากก็เป็นได้”

 

วัฒนาหัวเราะคล้ายคนพูดทีเล่นทีจริงในตอนนี้  แต่พูดหนักแน่นขึ้นว่าความเสียสละและความกตัญญูต่อบุพการีในอดีตของเขาน่าจะเป็นคุณความดีส่งผลให้เขาไม่โชคร้ายเรื่องสุขภาพมากเกินไป

 

เขายกเครดิตแก่ภรรยาและลูกสองคนค่อนข้างมากที่ร่วมกันทำให้ชีวิตครอบครัวราบรื่น อบอุ่น และเป็นสุขชนิดที่ใครๆ ต้องอิจฉา “แฟนผมเป็นคนกตัญญู –อาจยิ่งกว่าผมเสียอีก” น้ำเสียงวัฒนาเต็มไปด้วยความชื่นชม  ก่อนพูดถึงลูกทั้งสองอย่างชมเชยเช่นกัน “ไม่เคยเลยที่ลูกๆ จะทำให้ผมเสียใจหรือรู้สึกว่าต้องแบกภาระ”

 

ในยามป่วยไข้... ใช่หรือไม่ว่าพื้นฐานครอบครัวที่ดีเลิศต้องส่งผลให้วัฒนามีจิตใจที่ดี มุ่งมั่นในการเผชิญหน้าและฝ่าฟันให้พ้นโรคร้ายได้ดียิ่งขึ้น

 

แน่นอนว่า ทั้งภรรยาทั้งลูกต่างกระตุ้นเสริมแรงใจแก่ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวให้ออกกำลังกายสม่ำเสมอ  แม้สุขภาพของเขาจะดีขึ้นมากแล้วก็ตาม

สุขภาพใช่แค่ออกกำลังกาย

 

ทุกวันนี้วัฒนายังหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ  นอกเหนือจากเล่นตะกร้อวงแล้ว ทุกสายวันอาทิตย์เขาจะเดินรอบสนามหลวง  ด้วยตระหนักที่สุดถึงความสำคัญของการสร้างเสริมและรักษาสุขภาพว่าควรเป็นหนึ่งเดียวกับการดำรงชีวิต  สำนึกนี้เขาเรียนรู้จากประสบการณ์เฉียดตายใกล้พิการมาแล้วโดยตรง

 

แน่นอน... วัฒนาเชื่อว่าการออกกำลังกายเป็นยาวิเศษ  แต่เขาก็ให้ข้อคิดว่ากีฬาใช่ว่าจะใช้แทนยาได้ทุกขนาน  โดยเฉพาะสำหรับผู้มีโรคประจำร้ายแรงและต้องกินยานั้น  ต้องไม่ทิ้งยาโดยไม่ปรึกษาหมอเสียก่อน

 

ทุกคนควรขอบคุณวัฒนา ที่นำเรื่องราวของเขามาเล่าสู่กันฟัง เป็นข้อเตือนใจให้เราเอาใจใส่สุขภาพยิ่งขึ้น  โดยไม่มีวันต้องเรียนบทเรียนนี้ด้วยตัวเอง

 

ก็ประสบการณ์เช่นนี้ใช่จะน่าอภิรมย์สักนิด ทั้งนี้ทั้งนั้น  เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะโชคดีอย่างวัฒนา  วิเศษชาญเวทย์.




นานาสาระเกี่ยวกับ สุขภาพจิต

ลักษณะที่ควรหลีกเลี่ยง : เมื่อคุณคือคนทำงาน
รู้จักรู้ใจ ๑๓ - ๑๕ ปี article
อยากรู้ว่า ตัวตนคุณเป็นคนแบบไหน
ตอนนี้ คุณเครียดระดับไหนลองทำแบบทดสอบดูสิ
20 นิสัยไม่ดีสำหรับการใช้ชีวิตคู่
เบื่องาน
วิธีช่วยเหลือผู้ที่มีเพื่อน,ญาติ หรือ คนสนิทเสียชีวิตใหม่ๆ
ส่วนไหนของชาย ที่สาวแอบสำรวจ?
นอนไม่พออาจมีปัญหาทางเพศ article
เล่นตะกร้อ หายจาก “อัมพฤกษ์” (ตอนที่ 1)