ReadyPlanet.com
dot
dot
dot
dot




ปวดต้นคอทำอย่างไร
วันที่ 04/12/2008   14:30:24

ปวดต้นคอ ทำอย่างไร?

   สาเหตุของการปวดคอที่พบบ่อย  neck sprain กล้ามเนื้อ บริหาร ชา เส้นประสาท medbible

1. อิริยาบถ หรือ ท่าทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น
-
การแหงนหน้า หรือ ก้มหน้าทำงานทั้งวัน เช่น ผู้ทำงานเย็บจักร ซักผ้า เขียนหนังสือ ช่างซ่อมรถ
-
นอนในท่าที่คอพับ หรือ บิดไปข้างใดข้างหนึ่ง นอนหนุนหมอนที่สูง หรือ แข็งเกินไป

2.ความเครียดทางจิตใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อคอ ทำให้มีอาการปวดต้นคอ ปวดศีรษะบริเวณท้ายทอย ภายหลังจากการทำงาน หรือภายหลังจากมีปัญหาขัดแย้ง

 

 

4.กระดูกคอเสื่อม ซึ่งพบได้ในผู้ที่สูงอายุทุกคน แต่มีบางคนเท่านั้นที่มีอาการมากจนต้องได้รับการรักษา สำหรับการเอ๊กซเรย์กระดูกคอจะพบว่ามีกระดูกงอกที่บริเวณขอบ ๆ ข้อต่อ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สามารถพบได้ในคนสูงอายุทั่วไปที่ไม่มีอาการเลยก็ได้ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเอ๊กซเรย์ทุกคน

5.ข้ออักเสบ เช่น ในผู้ป่วยที่เป็นโรค รูมาตอยด์

6.กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อ ซึ่งยังไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร จะมีอาการปวดในกล้ามเนื้อ และปวดมากขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อนั้นถูกใช้งาน รู้สึกว่า กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีบริเวณที่กดเจ็บชัดเจน และอาจจะคลำได้ก้อนพังผืดแข็ง ๆ ในบริเวณที่กดเจ็บ

การรักษาเบื้องต้น

1.พยายามพักผ่อนให้มาก ทางที่ดีควรนอนราบ หนุนหมอน ซึ่งหมอนที่ดี ควรมี
-
ความนุ่มและยืดหยุ่นสามารถแนบส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะบริเวณส่วนโค้งของก้านคอ
-
ความหนาที่พอเหมาะ เมื่อนอนหนุนหมอนแล้วมองด้านข้างคอจะอยู่ในแนวตรง คอไม่แหงน หรือไม่ก้ม
2.
ประคบด้วยน้ำแข็งหรือน้ำอุ่น โดยใช้น้ำแข็งทุบใส่ในถุงพลาสติกแล้วห่อด้วยผ้าขนหนู หรือ ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น ประคบประมาณ 10 -15 นาที
3.
รับประทานยาแก้ปวด เช่น ยาพาราเซตามอล แอสไพริน ทุก 4 - 6 ชั่วโมง อาจใช้ครีมนวดแก้ปวด ก็ได้แต่ต้องระวังอย่านวดแรงเพราะจะทำให้กล้ามเนื้อฟกช้ำมากขึ้นไปอีก
4.
ทำกายภาพบำบัด
-
บริหารกล้ามเนื้อคอ
-
ใส่ปลอกคอ ซึ่งใช้เฉพาะรายที่จำเป็นเท่านั้น
-
ถ่วงน้ำหนักดึงกระดูกคอ
-
ประคบบริเวณที่ปวดด้วย ความร้อน ความเย็น หรือ คลื่นเสียงอัลตร้าซาวน์

อาการปวดมักจะดีขึ้นภายใน 2-3 วัน แต่ยังไม่หายสนิทให้กินยาแก้ปวดต่อไป และ ฝึกการบริหารเพื่อให้คอเคลื่อนไหวดีขึ้น และ ออกกำลังกล้ามเนื้อคอ ให้แข็งแรงมากขึ้น

่ถ้าอาการต่อไปนี้ควรปรึกษาแพทย์

1. มีอาการปวดร้าวไปที่ไหล่ แขน โดยอาจจะมีอาการชา หรือ กล้ามเนื้อมืออ่อนแรง ร่วมด้วย
2.
มีอาการอ่อนแรงของขา เวลาเดินรู้สึกว่าขาจะสั่น ๆ หรือ รู้สึกขา กระตุก ๆ
3.
กลั้นอุจจาระหรือปัสสาวะ ไม่ได้ ทำให้มีอุจจาระ หรือปัสสาวะราด
4.
อาการปวดไม่ดีขึ้น หรือปวดเพิ่มมากขึ้น

การป้องกันอาการปวดคอ

1.ระวังอิริยาบถ หรือ ท่าทางที่ไม่ถูกต้อง
-
อย่าให้คอต้องก้ม-เงย นานเกินไป หรือ ก้ม-เงย บ่อยเกินไป ควรหยุดพักเพื่อบริหารกล้ามเนื้อคอ หรือเคลื่อนไหวคอสัก 2 - 3 นาทีทุก ๆ ชั่วโมง
-
การนอนควรนอนบนที่นอนแข็งพอสมควร นอนหนุนหมอนที่นุ่มและยืดหยุ่นพอที่จะแนบส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะบริเวณส่วนโค้งของก้านคอและมีความหนาพอเหมาะ ที่จะทำให้คออยู่ในแนวตรงเมื่อมองจากด้านข้าง ไม่ทำให้คอแหงนหรือก้มมากเกินไป อย่านอนคว่ำอ่านหนังสือหรือดูทีวี

2.หมั่นออกกำลังกล้ามเนื้อของคอทุก ๆ วัน ให้บ่อยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ( ทำมากได้มาก )

3.พยายามลดความเครียดจากชีวิตประจำวัน โดยการออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อจะได้มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี

การบริหารกล้ามเนื้อคอ

1. ทำให้กล้ามเนื้อคอเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
ก้มและเงยหน้า ก้มหน้าให้คางจรดกับอก แล้วค่อย เงยหน้าให้แหงนไปด้านหลังให้มากที่สุด
ตะแคงซ้ายขวา หน้าอยู่ตรง ๆ ตะแคงซ้าย พยายามให้หูจรดไหล่ซ้าย โดยไม่ยกไหล่ กลับที่เดิมแล้วตะแคงขวาให้หูจรดไหล่ขวาโดยไม่ยกไหล่
หันหน้าซ้ายขวาหมุนศีรษะให้หน้าหันไปด้านซ้าย ให้ปลายคางอยู่ในแนวเดียวกับไหล่ซ้าย แล้วหมุนกลับไปด้านขวาให้ปลายคางอยู่ในแนวไหล่ขวา

2. ทำให้กล้ามเนื้อคอแข็งแรงขึ้น โดยเกร็งกล้ามเนื้อ-คอ ประมาณ 10 วินาที (นับหนึ่งถึงสิบ) ทำซ้ำ 10 ครั้ง พยายามทำโดยให้คอและหน้าอยู่ในแนวตรง
ก้มคอ ใช้ฝ่ามือดันที่หน้าผากต้านกับความพยายามที่จะก้มศีรษะลง นับหนึ่งถึงสิบ
เงยหน้า ใช้ฝ่ามือประสานกัน ที่บริเวณเหนือท้ายทอยแล้วดันมาข้างหน้า ต้านกับความพยายามที่จะแหงนหน้าไปข้างหลัง นับหนึ่งถึงสิบ
ตะแคงคอ ใช้ฝ่ามือซ้ายดันที่ข้างศีรษะเหนือหูซ้าย ต้านกับความพยายามที่จะตะแคงศีรษะไปด้านซ้าย นับหนึ่งถึงสิบ แล้วสลับกับด้านขวาทำแบบเดียวกัน
หันหน้า ใช้ฝ่ามือซ้ายดันที่ข้างศีรษะหน้าหูซ้ายต้านกับความพยายามที่จะหันหน้าไปด้านซ้าย นับหนึ่งถึงสิบ แล้วสลับกับด้านขวาทำแบบเดียวกัน

ข้อมูลจาก Thaiclinic.com

23 / 09 / 2550

3.อุบัติเหตุ ที่ทำให้มีการเคลื่อนไหวของคอมาก หรือ รวดเร็วกว่าปกติ ทำให้กล้ามเนื้อเส้นเอ็นฉีกขาด หรือ กระดูกคอเคลื่อน




บทความวิชาการและวิทยาการสมัยใหม่

ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 วันที่ 28/10/2010   11:54:22 article
บทความเรื่อง : ฆาตกรเงียบ วันที่ 21/10/2010   14:28:00
รู้จักกับ “แก๊สน้ำตา” วันที่ 21/10/2010   14:29:59
ความรู้ในเรื่องเลือดส่วนประกอบของเลือด และการบริจาค วันที่ 29/11/2008   13:09:39
7 อาการปวดที่ไม่ควรมองข้าม วันที่ 29/11/2008   13:17:15
การรักษากระดูกหักด้วยการผ่าตัดดามโลหะ วันที่ 04/12/2008   14:35:07
เมื่อเจ้าตัวเล็กกระดูกหัก วันที่ 04/12/2008   14:34:37
การต่อนิ้วหัวแม่มือ วันที่ 04/12/2008   14:35:37
แผลเป็นและเป็นแผล วันที่ 04/12/2008   14:36:31
บาดแผล เรื่องธรรมดาที่ไม่ธรรมดา วันที่ 02/12/2008   09:58:34
ป้องกัน “ดวงตา” จากอุบัติเหตุรถยนต์ วันที่ 04/12/2008   14:33:39
โปรดระวังอันตรายจาก คลอโรฟอร์ม วันที่ 04/12/2008   14:37:49
นอนไม่หลับทำงัยดี วันที่ 04/12/2008   14:32:25
การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม วันที่ 00/00/0000   00:00:00
กลัวการผ่าตัดอ่านทางนี้ วันที่ 00/00/0000   00:00:00
ปลูกถ่ายฟัน.........ทางเลือกของคนฟันผุ วันที่ 04/12/2008   14:31:44 article
ตรวจมะเร็งได้จากการตรวจเลือด วันที่ 04/12/2008   14:31:11 article
มันมากับรองเท้า วันที่ 04/12/2008   14:29:21
ตู้ขายน้ำดื่มอัตโนมัติแหล่งปนเปื้อนที่น่ากลัว วันที่ 04/12/2008   14:29:42 article
คนไทยเป็นพาหะธาลัสซีเมีย วันที่ 04/12/2008   14:28:50